วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2553
วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2553
วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
กุหลาบ
ส่วนผสม ผัดมักกะโรนีกุ้งซอสมะเขือเทศ
กุ้งต้ม 15 ตัว
มักกะโรนี 2 ถ้วย
หอมใหญ่หั่น 1 หัว
เนย 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทย 1/2 ช้อนชา
ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วย
มะเขือเทศหั่น 1/2 ถ้วย
น้ำซุป 1/2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ ผัดมักกะโรนีกุ้งซอสมะเขือเทศ
นำกุ้งต้ม ปอกเปลือก เด็ดหัวไว้หางพักไว้
ต้มมักกะโรนีให้นุ่ม (ต้มน้ำให้เดือดก่อน ใส่เกลือในน้ำต้ม 1 ช้อนชา) ต้มประมาณ 15 นาทีจนสุก ตักขึ้นล้างน้ำเย็นพักไว้
ผัดหอมใหญ่กับเนย และมะเขือเทศให้สุกนุ่มใส่น้ำซุป ซอสมะเขือเทศ ซอสแม็คกี้ พริกไทย พอเดือดใส่มักกะโรนี กุ้ง ลงผัดให้ทั่วจนเข้ากันกัน ตักใส่จานทานกับผักสลัด
ส่วนผสม ไก่ห่อใบเตย
เนื้ออกไก่หั่นเป็นชิ้นพอคำ 3 ถ้วย
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทย 1 ช้อนชา
กระเทียม 5 กลีบ
เหล้าแดง (หรือวิสกี้ไทยก็ได้) 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
ใบเตยหอมใบใหญ่ 30 ใบ
เชือกกล้วยสำหรับมัด
น้ำจิ้ม – ซีอิ้วดำ น้ำตาล งาคั่ว เกลือเล็กน้อย
วิธีทำ ไก่ห่อใบเตย
ตำพริกไทย กระเทียมให้ละเอียด ใส่ชามเนื้อไก่ที่หั่นแล้ว แล้วเคล้าด้วยซีอิ้วขาว เหล้า น้ำตาล น้ำมันงา หมักประมาณ 1 ชั่วโมง
เอาใบเตยมาห่อไก่ พันด้วยเชือกกล้วย ห่อให้เป็นรูปสามเหลี่ยม
นำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ พอสุก ตักใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน พร้อมเสิร์ฟ
วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2553
ดาว
คนไทยรู้จักและตั้งชื่อกลุ่มดาวอยู่บ้าง แต่ไม่ทั่วทั้งทรงกลมฟ้า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มดาวที่มีดาวฤกษ์สว่างเป็นสมาชิก และมักใช้คำว่า "ดาว" นำหน้า เช่น ดาวจระเข้ ดาวเต่า ดาวไถ ดาวโลง เป็นต้น
ดนตรี
ประวัติกุหลาบ
ประวัติของกุหลาบ
--เรื่องราวของกุหลาบได้เผยแพร่จากชากครีต (Cretans) ไปทางตอนเหนือสู่ประเทศกรีซโดยนิสัยของชาวกรีกนั้น เป็นชนชาติที่คลั่งไคล้ต่อการรบราฆ่าฟันกัน มากกว่าที่จะสนใจวัฒนธรรมในด้านอื่น อย่างไรก็ตาม ในวรรณกรรมกรีกเรื่องหนึ่งได้สอดแทรกเรื่องราวของดอกกุหลาบไว้ในนิยายปรัมปรา ซึ่งเขียนโดยโฮเมอร์ นิยายเรื่องนี้กล่าวถึงเฮคเตอร์ตัวละครตัวหนึ่งซึ่งถูกฆ่าโดยอคิลลิส ระหว่างการล้อมเมืองทรอย ในปี 1206 ก่อนคริสตกาล ในวรรณกรรมนี้ได้บรรยายถึงเกราะของเฮคเตอร์ ที่ประดับประดาด้วยดอกกุหลาบ นอกจากนี้โฮเมอร์ยังได้ผูกเรื่องต่อไปว่า เทพธิดาอโฟรไดต์ได้เข้ามาในตอนกลางคืน เพื่อชโลมศพของเฮคเตอร์ด้วยน้ำมันกุหลาบ ก่อนที่จะนำร่างของเขาไปอาบน้ำยารักษาศพ แม้กุหลาบจะเป็นไม้ดอกที่ปลูกในเมืองไทยมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นผู้นำกุหลาบเข้ามาปลูกตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆก็คือ กุหลาบเป็นที่น่าสนใจและปลูกกันอย่างแพร่หลายในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การปลูกกุหลาบสมัยนั้นเป็นการปลูกเพื่อใช้ประดับบ้านเรือน เพื่อเป็นงานอดิเรก โดยมักปลูกอยู่ในวงของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พันธุ์กุหลาบที่ปลูกในสมัยนั้นมีอยู่เพียงไม่กี่พันธุ์ กุหลาบพันธุ์ต่างๆเหล่านี้ถูกตั้งชื่อเป็นภาษาไทย เช่น พันธุ์จุฬาลงกรณ์ พันธุ์เหลืองเรณู พันธุ์เหลืองเชียงใหม่ เป็นต้น ปัจจุบันกุหลาบพันธุ์ต่างๆเหล่านี้คงหาได้ยากหรืออาจจะสูญพันธุ์ไปแล้ว เนื่องจากมีกุกลาบพันธุ์ใหม่ๆที่มีความสวยงามกว่าเข้ามาแทนที่ ทำให้พันธุ์เก่าๆเสื่อมความนิยมลง
ประวัติวันวาเลนไทน์
กุมภาพันธ์เป็นเดือนที่อบอวลไปด้วยความสุขการแสดงถึงความรัก ความห่วงใยถึงคนที่ เราปรารถนาดีและอยากให้เขามีความสุข และเป็นที่รับรู้กันทั่วโลกว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักหรือ Valentine’s Day และวันนี้ยังมีคิวปิด หรือกามเทพ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของ วันวาเลนไทน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คิวปิดเป็นบุตรของวีนัสและมาร์ส แต่ ชาวกรีกเรียกคิวปิดว่า อีรอส ภาพของ คิวปิดที่มนุษย์โลกปัจจุบันได้รู้จักก็คือภาพเด็กน้อยที่ถือคันธนูและลูกศร มีหน้าที่ยิงศรรักให้ปักใจคน ปัจจุบัน คิวปิดและธนูของเขากลายมาเป็น เครื่องหมายแห่งความรักที่เป็นที่รู้จัก มากที่สุด และความรักของเขามีกล่าวถึงบ่อยในภาพของ การยิงศรรัก ระหว่าง หัวใจสองดวงให้รักกัน เรียกกันว่า ศรรักคิวปิด เราจึงมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยว กับประวัติความเป็นมาและความสำคัญ ของวันนี้กันค่ะ
เทศกาลวาเลนไทน์ เริ่มมีขึ้น ตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุดเพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโนผู้เป็น จักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจาก นี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่ง อิสตรีเพศและการแต่งงานและในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นเทศกาล เฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การ ดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะ ถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ในรัชสมัยของ จักรพรรดิคลอดิอัส ที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่ง กรุงโรม พระองค์ ทรงเป็นกษัตริย์ที่มี ใจคอดุร้ายและทรงนิยม การ ทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วม ในกองทัพเนื่องจากไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโอง การสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและ แต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง และขณะนั้น มีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ ร่วมมือกับเซนต์มาริอัสจัดพิธีแต่งงานให้กับ ชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนา ดีนี้เองจึงทำให้วาเลนไทน์ถูกจับและระ หว่างนี้ก็ยังคงส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ ของเขาเองขณะที่เขาเป็นนักโทษ เป็น ความเชื่อว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิง สาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับ สุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” . วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูก เก็บไว้ที่โบสถ์ พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุม ศพของวาเลนตินัส แด่ผู้เป็น ที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทน แห่งรักนิรันดรและมิตรภาพ อันสวยงาม และคำนี้ก็เป็นคำที่ใช้มา จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเบื้อง หลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะ เป็นตำนานที่มืดมัว แต่เรื่องราวยังคง แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความ กล้าหาญและที่สำคัญที่สุดเป็นเครื่องหมาย ของความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจ เลยว่าในช่วงยุคกลางวาเลนไทน์เป็นนักบุญ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอังกฤษและฝรั่งเศส ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลอง เทศกาลแห่งความรักและดูเหมือนว่ายัง คงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือก หญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
วาเลนไทน์ ในแต่ละประเทศจะมีประเพณีหรือการ ปฏิบัติที่แตกต่างกันบ้าง แต่โดยรวมแล้ว จะมีการเฉลิมฉลองและเป็นการแสดงถึง ความรักที่มีระหว่างกัน ต่อมาเมื่อความ เจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทางด้าน การพิมพ์เข้ามาเกี่ยวข้องมีการพิมพ์บัตร อวยพรโดยเข้ามาแทนที่จดหมายที่ เขียนด้วยลายมือ และปัจจุบันก็มีการส่ง บัตรอวยพรทางออนไลน์เพื่อแสดงถึงความ ก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ช่วย ให้คนที่ต้องการแสดงความรักความห่วงใย ถึงคนที่รักได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ประวัติ วันวาเลนไทน์นี้ เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆกันมา จนถึงปัจจุบัน เท่าที่ค้นหามาได้นี้เป็นเพียง หนึ่งในหลายๆเรื่องเท่านั้น แต่ไม่ว่าประวัติ ที่แท้จริง จะเป็นอย่างไรก็ตาม ใน ปัจจุบัน นี้เราได้ถือว่าวันวาเลนไทน์เป็น วันสำคัญวันหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยที เดียว คุณสามารถส่งดอกไม้ ขนมและ การ์ด เพื่อบอกความนัยให้แก่คนพิเศษ ของคุณ วันนี้จะเป็นวันที่เราส่งความรู้สึก ดีๆให้แก่กัน...
เพลง
มีชีวิตเพื่ออะไร มันหมดความหมายเมื่อไร้เธอต่อไปคงได้แค่เพ้อ ถึงวันเวลาที่เลยผ่านรู้ดีว่ามันจะเกิด แต่ก็เตรียมใจไม่ทันที่สุดความรักในความต่างกันก็เลิกลาเมื่อชีวิตไม่ใช่ฝัน เธอเหนื่อยกับฉันมามากพอไม่ผิดที่เธอจะท้อ ขอไปเจอคนที่ดีกว่าแค่มีบางคนที่เจ็บ จนไม่อาจหยุดน้ำตาไม่อาจทำใจกับการจากลา ในวันนี้* ต่อให้มันรู้ คนอย่างฉันไม่ควรคู่เธอต่อให้รู้สักวันต้องเจอ ก็ยังปวดร้าวเมื่อคำว่าเรากลายเป็นความหลังมันไม่เหลือเรี่ยวแรงก้าวเดินเมื่อมันไม่มีเธอร่วมทางที่ได้พบใคร เจอวันนี้ มันเกินกว่าสิ่งที่ฉันกลัว (มันเกินกว่าฉันจะทนได้ไหว)เธออยู่สูงขนาดไหน แต่ยอมปล่อยใจมารักกันคนผิดก็คงเป็นฉัน เผลอทำอะไรที่เกินตัวสักวันที่เธอนั้นตื่น ก็คือวันที่ฉันกลัวและมันมาถึงรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ไหวซ้ำ *ความรักหมดไป และฉากสุดท้ายคือการเลิกลาสำหรับเธอมันดีกว่า แต่สำหรับฉันมันปางตายซ้ำ *มีชีวิตเพื่ออะไร มันหมดความหมายเมื่อไร้เธอก็ยังทำได้แค่เพ้อเมื่อต้องขาดเธอมันก็เหมือนฉันขาดใจ
เป็นเพียงฝุ่นที่ลอยช้าๆ แล้วแต่สายลมจะพา ฉันไม่รู้เลยชีวิตวันต่อมา มันจะเป็นเช่นไร วันนึงเกิดมีลมแรงๆ พัดไปใกล้เธอมากไป ฉันก็รู้ตัวว่ารบกวนจิตใจ ทำให้เธอรำคาญ คนมันรักก็เลยมาตาม มาใส่ใจ ก็คนในใจคนเดียวของฉันคือเธอ.. แต่เธอไม่มองเศษฝุ่นเช่นฉัน อยู่ไกลๆ ยังรำคาญหนักหนา ยิ่งมาลอยใกล้ชิดสายตา มีแต่ทำให้ขุ่นเคือง ถ้าหากวันใดเข้าใกล้เกินไป อย่าผลักไสฉันต้องการแค่เพียง แอบมาลอยแอบมาข้างเคียง ไม่ได้หวังให้เห็น ..ในสายตา เป็นความสุขแค่เพียงเล็กน้อย ที่ได้ใกล้เธออย่างนี้ แล้วถ้าสักวันเธอพบคนที่ดี ฉันก็พร้อมจะไป คนมันรักก็เลยมาตาม มาใส่ใจ ก็คนในใจคนเดียวของฉันคือเธอ.. แต่เธอไม่มองเศษฝุ่นเช่นฉัน อยู่ไกลๆ ยังรำคาญหนักหนา ยิ่งมาลอยใกล้ชิดสายตา มีแต่ทำให้ขุ่นเคือง ถ้าหากวันใดเข้าใกล้เกินไป อย่าผลักไสฉันต้องการแค่เพียง แอบมาลอยแอบมาข้างเคียง ไม่ได้หวังให้เห็น .. แต่เธอไม่มองเศษฝุ่นเช่นฉัน อยู่ไกลๆ ยังรำคาญหนักหนา ยิ่งมาลอยใกล้ชิดสายตา มีแต่ทำให้ขุ่นเคือง ถ้าหากวันใดเข้าใกล้เกินไป อย่าผลักไสฉันต้องการแค่เพียง แอบมาลอยแอบมาข้างเคียง ไม่ได้หวังให้เห็น ..ในสายตา